นโยบายความเป็นส่วนตัว
นโยบายความเป็นส่วนตัวของผู้รับบริการแอพลิเคชั่น Fitness Challenge by Genfosis

บริษัท เจ็นโฟสิส จำกัด (ต่อไปนี้จะเรียกว่า 'บริษัทฯ') เป็นผู้ให้บริการแอพลิเคชั่น Fitness Challenge by Genfosis บริษัทฯ ขอเรียนว่า บริษัทฯ เคารพความเป็นส่วนตัวของท่านและตระหนักดีว่าข้อมูลส่วนบุคคลของแต่ละท่านมีความสำคัญอย่างยิ่ง บริษัทฯ จึงต้องการที่จะชี้แจงให้ทราบเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ดังนั้น บริษัทฯ จึงได้มีนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ เพื่อชี้แจงรายละเอียดและ วิธีการจัดเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย การคุ้มครองข้อมูล การเข้าถึงข้อมูล การโอนย้าย และการวิเคราะห์ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

ข้อมูลส่วนบุคคลในทีนี้ หมายถึง ข้อมูลต่างๆ ในการทำการลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมผ่านแอพลิเคชั่น Fitness Challenge by Genfosis

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) นี้อยู่ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยบริษัทฯ มีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งตามกฎหมายเรียกว่า 'ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล' โดยมีพนักงานที่บริษัทฯ มอบหมายโดยเฉพาะให้มีหน้าที่ดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของบริษัทฯ ซึ่งตามกฎหมายเรียกว่า 'ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล' ส่วนท่านถือเป็น 'เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล' ตามกฎหมายนี้

ข้อ 1. ข้อมูลส่วนบุคคลอะไรบ้างที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผย

บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นข้อมูลที่ทำให้สามารถระบุตัวตนของท่านได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ได้แก่ ข้อมูลที่ท่านให้ไว้โดยตรงจากการลงทะเบียนผ่านระบบ แอพลิเคชั่น Fitness Challenge by Genfosis ของบริษัทฯ เช่น

  • ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ ช่วงอายุ รหัสประจำตัวของผู้ลงทะเบียน
  • ข้อมูลการติดต่อ เช่น หมายเลขโทรศัพท์
  • ข้อมูลอุปกรณ์หรือเครื่องมือ เช่น IP Address MAC Address Cookie ID
  • ข้อมูลอื่นๆ เช่น ข้อมูลการทดสอบร่างกาย และข้อมูลอื่นใดที่ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อ 2. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูล

บริษัทฯ จะนำข้อมูลของท่านมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

  1. เพื่อการสร้างรหัสผู้ใช้งาน
  2. เพื่อนำเสนอกิจกรรม Fitness challenge และข้อมูลการทดสอบสมรรถภาพทางกายของท่านผ่าน แอพลิเคชั่น Fitness Challenge by Genfosis ให้แก่ท่าน
  3. เพื่อนำเสนอการแสดงผลการจัดอันดับในการทดสอบสมรรถภาพทางกายของท่านผ่าน Scoreboard ให้แก่ท่าน
  4. เพื่อการวิจัยทางด้านทางวิชาการ รวบรวมข้อมูลเชิงสถิติเกี่ยวกับบริการของบริษัทฯ รวมทั้งการใช้ข้อมูลสมรรถภาพทางกายในอนาคต โดยจะทำเป็นรูปแบบรายงานผลโดยภาพรวมที่ไม่มีการบ่งชี้ตัวตนของเจ้าของข้อมูล และบริษัทฯ จะรักษาความลับของข้อมูลดังกล่าวของท่านอย่างเคร่งครัด
  5. เพื่อวัตถุประสงค์ทางด้านการตลาด และนำเสนอบริการอื่นของบริษัทฯ ในภายหลัง

ในกรณีที่บริษัทฯ ใช้เทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลแบบอัตโนมัติ (automatic data collection technologies) นั้น อาจทำให้บริษัทฯ ได้ฐานข้อมูลเชิงสถิติ อันมีข้อมูลส่วนบุคคลรวมอยู่ด้วย ข้อมูลที่ได้เหล่านั้นจะช่วยให้บริษัทฯ สามารถปรับปรุงแอพลิเคชั่น Fitness Challenge by Genfosis เพื่อให้บริการที่ดีขึ้น และที่ตรงกับความต้องการมากขึ้น ซึ่งทำให้บริษัทฯ สามารถดำเนินการดังต่อไปนี้ได้

  1. ประเมินจำนวนและรูปแบบการใช้งานของผู้ติดตามของบริษัท
  2. เพิ่มความรวดเร็วให้แก่การค้นหาให้แก่ท่าน
  3. จดจำท่านได้ เมื่อท่านกลับมาใช้แอพลิเคชั่น Fitness Challenge by Genfosis อีกครั้ง

หากภายหลังมีการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์ บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบ เพื่อขอความยินยอม และจัดให้มีบันทึกการแก้ไขเพิ่มเติมไว้เป็นหลักฐาน

ทั้งนี้ บริษัทฯ จะไม่กระทำการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อประโยชน์อย่างอื่น ที่นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งไว้กับท่านไว้ก่อนหรือขณะเก็บรวบรวม

ข้อ 3. การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

การเก็บรวบรวมส่วนบุคคล บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านโดยขอความยินยอมจากท่านก่อน เว้นแต่กรณีที่กฎหมายให้อำนาจไว้ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มาตรา 24 หรือ มาตรา 26

เพื่อประโยชน์ของท่าน บริษัทฯ จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตราบเท่าที่จำเป็นตามสมควรเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ในประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ และเพื่อก่อตั้ง ใช้ หรือยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่มีกฎหมายใดกำหนด เราอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านยาวกว่าระยะเวลาดังกล่าว

บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านเฉพาะเท่าที่จำเป็น ภายใต้วัตถุประสงค์ที่บริษัทฯ ได้แจ้งไว้ใน ข้อ 2.

นอกจากนี้ บริษัทฯ ใคร่ขอเรียนว่า หากท่านใช้สิทธิลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแล้ว ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจะถูกทำลายไปโดยทันทีและบริษัทฯ จะไม่สามารถดำเนินการกู้คืนข้อมูลดังกล่าวได้ ไม่ว่าในกรณีใด

การใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ จะไม่ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่านก่อนที่จะได้รับความยินยอมจากท่าน เว้นแต่เป็นข้อมูลของท่านที่เก็บรวบรวมได้โดยไม่ต้องขอความยินยอม ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มาตรา 24 หรือมาตรา 26

บริษัทฯ จะดูแลให้พนักงานที่ได้รับมอบหมายในเรื่องนี้โดยเฉพาะ มิให้ ใช้ หรือเปิดเผย แสดง หรือทำให้ปรากฏในลักษณะอื่นใดซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน นอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ ภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้ตามขอบเขตที่ท่านได้ให้ความยินยอม หรือขอบเขตที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้

ในกรณีที่บริษัทฯ จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลหรือนิติบุคคลภายนอก บุคคลหรือนิติบุคคลภายนอกนั้นจะต้องแจ้งวัตถุประสงค์ในการ ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้บริษัทฯ ทราบก่อน และต้องไม่ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล นอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่ได้ให้ไว้แก่บริษัทฯ

บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บริษัทฯ ผู้ร่วมวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อการวิเคราะห์และพัฒนาปรับปรุงผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ การทำวิจัยหรือจัดทำข้อมูลทางสถิติ การบริหารกิจการ และการส่งเสริมการตลาด เช่น การประชาสัมพันธ์กิจกรรม ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการ ให้แก่ท่าน

ในกรณีที่บริษัทฯ ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอม บริษัทฯ จะบันทึกการใช้หรือเปิดเผยข้อมูลนั้นเป็นหนังสือหรือระบบอิเล็กทรอนิกส์

ข้อ 4. มาตรการในการเก็บรักษาและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

  1. บริษัทฯ จะจัดการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลด้วยมาตรการไม่น้อยกว่าระดับที่กฎหมายกำหนด และด้วยระบบที่เหมาะสม เพื่อป้องกันและรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น เช่น ใช้โปรโตคอลดความปลอดภัย (Secure Sockets Layer: SSL) ปกป้องด้วยไฟร์วอลล์ รหัสผ่าน และมาตรการทางเทคนิคอื่นๆ สำหรับการเข้ารหัสข้อมูลผ่านทางอินเตอร์เน็ต และจัดเก็บในสถานที่ที่มีระบบป้องกันการเข้าถึงที่จำกัดบุคคลที่สามารถเข้าถึงได้สำหรับข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในรูปแบบเอกสาร
  2. บริษัทฯ จำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจจะเข้าถึงได้โดยพนักงาน ตัวแทน คู่ค้า หรือบุคคลภายนอก การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกจะสามารถทำได้ตามเท่าที่กำหนดไว้หรือตามคำสั่ง ซึ่งบุคคลภายนอกจะต้องมีหน้าที่ในการรักษาความลับและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  3. บริษัทฯ จัดให้มีวิธีการทางเทคโนโลยีเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้รับอนุญาต
  4. บริษัทฯ มีระบบตรวจสอบเพื่อจัดการทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่มีความจำเป็นในการดำเนินการของบริษัทฯ
  5. ในกรณีที่เป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหวบริษัทฯ จะจัดให้มีมาตรการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลเอกสารและข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ในด้านการเข้าถึงและควบคุมการใช้งาน มีระบบการใช้งานและระบบสำรองพร้อมทั้งแผนสำหรับกรณีฉุกเฉิน และมีการตรวจสอบประเมินความเสี่ยงของระบบอย่างสม่ำเสมอ

ข้อ 5. สิทธิของท่านเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล

สิทธิของท่านในข้อนี้เป็นสิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องที่ท่านควรทราบ โดยท่านสามารถขอใช้สิทธิต่างๆ ได้ภายใต้ข้อกำหนดของกฎหมาย และนโยบายที่บริษัทฯ กำหนดไว้ก่อนหรือในขณะหรือที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต ตลอดจนหลักเกณฑ์ตามที่บริษัทฯ กำหนดขึ้น

5.1 สิทธิในการขอถอนความยินยอม: ท่านมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับบริษัทฯ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธินั้นโดยกฎหมายหรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่านอยู่ (ไม่ว่าจะเป็นความยินยอมที่ท่านให้ไว้ก่อนวันที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลใช้บังคับหรือหลังจากนั้น)

5.2 สิทธิในการขอเข้าถึง ขอรับข้อมูลหรือสำเนาข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอเข้าถึง หรือรับ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเองที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ และขอให้บริษัทฯ ทำสำเนาข้อมูลดังกล่าวให้แก่ท่าน รวมถึงขอให้เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมว่าบริษัทฯ ได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาได้อย่างไร

5.3 สิทธิในการคัดค้าน: ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อใดก็ได้ ในกรณีที่กฎหมายให้อำนาจบริษัทฯ ในการเก็บรวบรวมข้อมูลของท่านได้โดยไม่ต้องขอความยินยอมจากท่านก่อน

5.4 สิทธิขอให้แก้ไขข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

5.5 สิทธิขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของได้ ดังต่อไปนี้

  1. ข้อมูลของท่านไม่มีความจำเป็นที่จะเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของท่าน
  2. เมื่อท่านได้ใช้สิทธิขอถอนความยินยอมและบริษัทฯ ไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้
  3. เมื่อท่านใช้สิทธิคัดค้านตาม ข้อ 5.3 และบริษัทฯ ไม่อาจปฏิเสธคำขอได้ตามกฎหมาย
  4. เมื่อข้อมูลของท่านได้ถูกเก็บ ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

5.6 สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูล: ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลของท่าน ในกรณีดังต่อไปนี้

  1. เมื่อบริษัทฯ อยู่ในระหว่างการตรวจสอบตามที่ท่านร้องขอ
  2. เมื่อเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบหรือทำลาย แต่ท่านขอให้ระงับการใช้แทน
  3. เมื่อข้อมูลของท่านหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลของท่าน แต่ท่านมีความจำเป็นต้องขอให้เก็บรักษาไว้เพื่อใช้ในการตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายการปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
  4. เมื่อบริษัทฯ อยู่ระหว่างพิสูจน์คำขอคัดค้านของท่านตามข้อ 5.3 เพื่อดูว่าบริษัทฯ มีอำนาจตามกฎหมายให้ปฏิเสธคำคัดค้านของท่านได้หรือไม่

5.7 ท่านมีสิทธิร้องขอให้บริษัทฯ ดำเนินการให้ข้อมูลของท่านนั้นถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หากบริษัทฯไม่ดำเนินการตามคำร้องขอ บริษัทฯ จะบันทึกคำร้องขอของท่านพร้อมด้วยเหตุผลไว้เป็นหนังสือหรือระบบอิเล็กทรอนิกส์

5.8 สิทธิร้องเรียน: ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

5.9 การใช้สิทธิของท่านดังกล่าวข้างต้นอาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัทฯ อาจปฏิเสธหรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของท่านได้ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล การใช้สิทธิละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น

ข้อ 6. การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

ในบางกรณี บริษัทฯ อาจมีความจำเป็นต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ บริษัทฯ อาจดำเนินการดังกล่าวได้หลังจากที่ได้แจ้งกับท่านถึงวัตถุประสงค์ของการดำเนินการดังกล่าว และได้รับการยินยอมจากท่านแล้ว โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบถึงมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจไม่เพียงพอของประเทศปลายทาง

บริษัทฯ สามารถโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปได้โดยไม่ต้องขอความยินยอมจากท่านในกรณีที่การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศนั้นเป็นไปเพื่อปฏิบัติตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อเป็นการป้องกัน หรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย สุขภาพของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญานั้น หรือเป็นไปตามข้อกำหนดในพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

ข้อ 7. การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ อาจทบทวนและเปลี่ยนแปลงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในอนาคตเพื่อพัฒนาให้เกิดการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ดีขึ้น โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าว

ช่องทางการติดต่อ

ท่านสามารถติดต่อ สอบถามหรือใช้สิทธิใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล ได้ที่

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer : DPO)
อีเมล: dpo@genfosis.com
บริษัท เจ็นโฟสิส จำกัด เลขที่ 101 ซอยพระรามเก้า 60 (ซอย 7 เสรี 7) แขวงพัฒนาการ เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร
เบอร์โทรศัพท์: 061-656-6047